ThaiSkyCleanThaiSkyClean

ไวรัสโคโรนา : อ.เจษฎ์ แนะนำ 5 น้ำยาฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อแอลกอฮอล์เจลขาดตลาด

ไวรัสโคโรนา : อ.เจษฎ์ แนะนำ 5 น้ำยาฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อแอลกอฮอล์เจลขาดตลาด

เนื่องจากในช่วงที่มีการระบาดของไวรัสโควิด-19 สินค้าประเภทกำจัดเชื้อไวรัสโควิด-19 ขาดตลาด โดยเฉพาะแอลกอฮอล์เจล หรือแอลกอฮอล์แบบทั่วไป ทำให้หลายๆ คนเกิดคำถามว่าจะใช้น้ำยาอะไรฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 นี้อีกได้บ้าง “อาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์” อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ได้โพสต์ในเฟชบุ๊กส่วนตัว และแนะนำว่าจะสามารถใช้น้ำยาอะไรฆ่าเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 ได้บ้าง

“จะใช้น้ำยาอะไร ฆ่าเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 ได้บ้าง”

จากที่แชร์ข่าวเกี่ยวกับว่า คนอิหร่านเอาเมทิลแอลดอฮอล์มากดื่ม เพื่อหวังจะฆ่าเชื้อโรค COVID 19 ในร่างกาย จนเสียชีวิตกันหลายคนนั้น !! (จริงๆ เขาให้เอามาทาฆ่าเชื้อ ไม่ใช่ดื่มกิน)

ผมเลยคิดว่าน่าจะเอาความรู้จาก คณะเภสัชศาสตร์ มหาลัยมหิดล มาสรุปให้ฟังบ้างว่า จริงๆ แล้ว มีสารอะไรที่เราสามารถหาซื้อเอาใช้ฆ่าเชื้อไวรัสไกด้บ้าง

-การเลือกใช้น้ำยาฆ่าเชื้อในกรณีของโรค COVID-19 ทาง Centers for Disease Control and Prevention (CDC) ของสหรัฐอเมริกา และองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้แนะนำให้ใช้ ethyl alcohol (ethanol) ที่ความเข้มข้นอย่างน้อย 70% โดยปริมาตร (v/v) หรือ sodium hypochlorite เข้มข้น 0.5% ในการทำความสะอาดพื้นผิว

-สารฆ่าเชื้อที่ใช้ตามบ้านเรือนและสามารถฆ่าเชื้อโคโรน่าไวรัสได้ มี 5 ชนิด ได้แก่ benzalkonium chloride, chloroxylenol, ethyl alcohol, isopropyl alcohol, และ sodium hypochlorite ส่วนมากจะจำหน่ายในความเข้มข้นสูง ดังนั้น ก่อนใช้ ผู้บริโภคต้องนำมาเจือจางด้วยน้ำ ให้มีความเข้มข้นไม่น้อยกว่าความเข้มข้นต่ำที่สุดที่สามารถฆ่าเชื้อได้

– ตัวอย่างเช่น ไฮเตอร์ Haiter® และ คลอร็อกซ์ Clorox® มีสารโซเดียมไฮโปคลอไรท์ที่ฆ่าเชื้อได้ ในรูปของ available Chlorine อยู่ 6% w/w จึงควรเจือจางให้ได้ความเข้มข้นตามที่เหมาะสม เช่น อาจใช้ 1 ส่วนผสมกับน้ำ 11 ส่วน ก็จะได้ความเข้มข้นโดยประมาณ 0.5%

-ส่วนน้ำยาฆ่าเชื้อยี่ห้อ เดทตอล นั้น มีขาย 2 ชนิด คือ Dettol® Hygiene Multi-Use Disinfectant กับ Dettol® Antiseptic Disinfectant ซึ่งมีสารออกฤทธิ์ที่แตกต่างกัน :

-Dettol® Hygiene Multi-Use Disinfectant มีสารออกฤทธิ์เป็น alkyl dimethyl benzoyl ammonium chloride เข้มข้น 2.4%w/w ใช้ฆ่าเขื้อโรคได้ แต่ไม่สามารถใช้กับผิวหนัง

-Dettol® Antiseptic Disinfectant มีสารออกฤทธิ์เป็น chloroxylenol เข้มข้น 4.8% (สังเกตโดยการดูที่ขวดจะมีมงกุฎสีฟ้าบนฉลาก) ซึ่งใช้ได้กับผิวหนัง // ตัวนี้ ถ้าจะใช้ทำความสะอาดพื้นผิว ให้เจือจางในอัตราส่วนน้ำยา 1 ส่วน ผสมน้ำ 39 ส่วน // ถ้าใช้กับผิวหนัง ต้องเจือจางลงให้เหมาะสม เช่น ใช้ล้างบาดแผล ให้เจือจางน้ำยาในอัตราส่วน 1:20 หรือถ้าใช้เพื่ออนามัยของร่างกาย ให้เจือจาง 1:40

– เพื่อความมั่นใจถึงความปลอดภัย ว่าไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง สำหรับน้ำยาฆ่าเชื้อที่ใช้กับผิวหนังนั้น ทางกระทรวงสาธารณสุขของประเทศไทย แนะนำให้ใช้ ethyl alcohol ความเข้มข้นอย่างน้อย 70% ในการทำความสะอาด

อาการของโรค “โควิด-19” (COVID-19) จากไวรัสโคโรน่า 2019 เป็นอย่างไร

ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ที่ทำให้เกิดผู้ติดเชื้อโรคระบบทางเดินหายใจที่เรียกว่า “โควิด-19” (COVID-19) เป็นเชื้อไวรัสที่สามารถแพร่จากคนสู่คนได้

เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับ อาการ และ วิธีป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า เอาไว้ รวมถึงวิธีปฏิบัติตนเมื่อมีอาการป่วยในช่วงนี้

ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ไวรัสชนิดนี้สามารถแพร่เชื้อจากคนสู่คนในกลุ่มผู้สัมผัสใกล้ชิด โดยส่วนใหญ่ติดต่อผ่านทางละออกเสมหะ จากการไอ จาม น้ำมูก และน้ำลาย

ดังนั้น ประชาชนจึงควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรืออยู่ใกล้ผู้มีอาการป่วย ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่และน้ำ หรือใช้น้ำยาแอลกอฮอล์ 60% ล้างมือ และไม่นำมือมาสัมผัสบริเวณตา จมูก และปาก

อาการ โควิด-19 (COVID-19)

ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค ระบุว่า อาการของผู้ป่วย โควิด-19 ส่วนใหญ่ ได้แก่

  • มีไข้
  • มีอาการไอ
  • มีน้ำมูก
  • มีอาการเหนื่อยหอบ
  • บางรายมีภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดอัดเสบ

ทั้งนี้ อ.พญ.รพีพรรณ รัตนวงศ์นรา มอร์ด ได้แนะนำเพิ่มเติมว่า ผู้ได้รับเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 จะเริ่มแสดงอาการออกมาภายใน 1-14 วัน โดยอาการเริ่มแรกส่วนใหญ่จะเริ่มจากมีไข้ ไอ เจ็บคอ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หายใจหอบเหนื่อย ถ่ายเหลวท้องเสีย หากผู้ป่วยมีร่างกายไม่แข็งแรงหรือมีภูมิคุ้มกันต่ำ จะทำให้มีความรุนแรงถึงขั้นวิกฤตและเสียชีวิตได้

เมื่อมีอาการป่วย ควรทำอย่างไร

กรมควบคุมโรคแนะนำว่าผู้ที่มีอาการป่วยในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 ควรปฏิบัติดังนี้

  • ควรพักผ่อนอยู่ที่บ้าน งดเดินทาง หลีกเลี่ยงที่ชุมชน
  • ปิดปากและจมูกด้วยกระดาษทิชชู่ทุกครั้งที่ไอหรือจาม
  • ทิ้งกระดาษทิชชู่ลงในถังขยะทุกครั้ง
  • ทำความสะอาดเชื้อโรคบนสิ่งของ และผิวสัมผัสต่างๆ เป็นประจำ

นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่มีอาการป่วยหลังจากเดินทางไปประเทศกลุ่มเสี่ยง เช่น มีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก เหนื่อยหอบ ต้องไปพบแพทย์พร้อมแจ้งประวัติการเดินทาง รวมถึงใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา และหลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับผู้อื่น

โรคนี้รุนแรงแค่ไหน

นพ.ธีระ วรธนารัตน์ ภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ให้ข้อมูลผ่านเว็บไซต์ Hfocus.org ไว้เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ว่า จากข้อมูลที่มีอยู่ พบว่าผู้ติดเชื้อไวรัสนี้ส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรง โดยมีเพียงประมาณ 15% ที่มีอาการขั้นรุนแรง ขณะที่อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ราว 2%

ทั้งนี้ นพ.ธีระ ได้กล่าวเสริมว่า แม้อัตราเสียชีวิตไม่มาก แต่ต้องป้องกันอย่างจริงจัง เนื่องจากพบว่ามีการติดต่อค่อนข้างง่าย และสถานการณ์การแพร่ระบาดยังไม่แน่นอน

วิธีป้องกันไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19)

คอลัมน์ สุขภาพดีกับรามาฯ โดย อ.พญ.รพีพรรณ รัตนวงศ์นรา มอร์ด

วินาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก “ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019” หรือ “ไวรัสอู่ฮั่น” ที่กำลังระบาดหนักอยู่ขณะนี้ กลุ่มไวรัสโคโรน่านั้น ถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อประมาณปี ค.ศ. 1960 ทำให้เกิดไข้หวัดทั่วไป แต่ไม่ได้มีอาการรุนแรงมาก ล่าสุดพบที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีน ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสายพันธุ์ใหม่ต่างจากที่เคยเจอมาก่อน มีอาการตั้งแต่เล็กน้อย ปานกลาง ถึงรุนแรง และมีการแพร่กระจายเชื้อได้

โคโรน่า (COVID-19 หรือ โควิด 19) คืออะไร?

โคโรน่าคือเชื้อไวรัสที่มีรูปร่างคล้ายมงกุฎ พบครั้งแรกกลางทศวรรษที่ 1960 โดยมีเชื้อไวรัสโคโรน่าอยู่ 4 สายพันธุ์ใหญ่ ๆ ด้วยกัน แต่ตัวที่ระบาดมากที่สุดคือ SARS-CoV พบครั้งแรกที่ประเทศจีน ปี ค.ศ. 2002-2003 ซึ่งได้ระบาดไปทั่วโลกและมีอัตราการเสียชีวิตสูง ต่อมาพบเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ MERS-CoV เกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศซาอุดีอาระเบีย ในแถบตะวันออกกลาง

จนกระทั่งล่าสุดพบ “เชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019” ที่เมืองอู่ฮั่น เมืองหลวงของมณฑลหูเป่ย์ ตอนกลางของประเทศจีน โดยบริเวณที่พบผู้ป่วยมากที่สุดและคาดว่าน่าจะเป็นรังของโรค คือ ตลาดอาหารทะเลและสัตว์หายากในเมือง ซึ่งได้แพร่กระจายไปในหลายเมืองในประเทศจีนและหลายประเทศ เช่น ไทย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา เป็นต้น

โดยเฉพาะในประเทศไทยเอง ผู้ป่วยรายแรกที่พบนั้นเป็นนักท่องเที่ยวหญิงชาวจีนอายุ 61 ปี จากเมืองอู่ฮั่น ซึ่งมีอาการไข้หนาวสั่น ปวดศีรษะและเจ็บคอ สามวันก่อนเดินทางมาที่ประเทศไทย ต่อมาได้เดินทางมาพร้อมครอบครัวเพื่อท่องเที่ยว เมื่อเดินผ่านเครื่องตรวจจับความร้อนที่สนามบิน (thermo scan) จึงพบว่ามีไข้ และถูกส่งตัวไปนอนรักษาที่โรงพยาบาลทันที อีกสองวันต่อมา ทางโรงพยาบาลสามารถแยกเชื้อโดยวิธีการทางโมเลกุลได้ว่าเป็นเชื้อ “ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019” จึงรายงานไปที่องค์การอนามัยโลก และประเทศไทยได้ประกาศว่าเป็นประเทศแรกนอกเหนือจากประเทศจีน ที่มีผู้ป่วยไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่

วิธีสังเกตอาการ

หากได้รับเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ผู้ป่วยจะเริ่มแสดงอาการออกมาภายใน 1 วัน ถึง 2 สัปดาห์ หลังจากได้รับเชื้อ โดยอาการเริ่มแรกของผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 นั้น ส่วนใหญ่จะเริ่มจากการมีไข้ ไอ เจ็บคอ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หายใจหอบเหนื่อย ถ่ายเหลวท้องเสีย หากผู้ป่วยมีร่างกายไม่แข็งแรงหรือมีภูมิคุ้มกันต่ำ จะทำให้มีความรุนแรงถึงขั้นวิกฤตและเสียชีวิตได้

วิธีป้องกันโรคโควิด 19 

เบื้องต้นทุกคนสามารถป้องกันตัวเองและคนรอบข้างให้ห่างไกลจากเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ได้ดังนี้

– เลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการไอ จาม น้ำมูกไหล เหนื่อยหอบ เจ็บคอ

– เลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะเมืองอู่ฮั่นที่เป็นรังโรค และเมืองอื่น ๆ ในประเทศจีนที่มีการระบาด

– ระวังการสัมผัสพื้นผิวที่ไม่สะอาด และอาจมีเชื้อโรคเกาะอยู่

– ควรล้างมือให้สม่ำเสมอด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลอย่างน้อย 20 วินาที

– งดจับตา จมูก ปากขณะที่ไม่ได้ล้างมือ

– เลี่ยงการใกล้ชิด สัมผัสสัตว์ต่าง ๆ โดยที่ไม่มีการป้องกัน

– ทานอาหารสุก สะอาด ใช้ช้อนกลาง ไม่ทานอาหารที่ทำจากสัตว์หายาก

– สำหรับบุคลากรทางการแพทย์หรือผู้ที่ต้องดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 โดยตรง ควรใส่หน้ากากอนามัย หรือใส่แว่นตานิรภัย เพื่อป้องกันเชื้อในละอองฝอยจากเสมหะหรือสารคัดหลั่งเข้าตา

สุดท้ายขอฝากไว้ว่า อย่าตื่นตระหนกจนเกินไป และอย่าลืมติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่องจากแหล่งที่เชื่อถือได้ ควรตรวจสอบข้อมูลให้แน่ชัดก่อนจะเชื่อในทันที

หมายเหตุ : อ.พญ.รพีพรรณ รัตนวงศ์นรา มอร์ด สาขาวิชาโรคติดเชื้อ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

บริการพ่นฆ่าเชื้อโรค ที่เกิดจากไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา

วิธีไล่นกกระจอก นกพิราบ อย่างง่าย ด้วยตัวคุณเอง

วิธีไล่นกกระจอก นกพิราบ อย่างง่าย ด้วยตัวคุณเอง

นกสามารถเป็นสัตว์ที่สวยงาม ในขณะเดียวกันก็เป็นสัตว์ที่สามารถทำลายสวน บ้าน โรงงาน หรือกระทั่งถ่ายมูลที่มีฤทธิ์กัดกร่อน พื้นผิว หลายคนใช้วิธีกำจัดโดยการฆ่านก แต่มันไม่ง่ายขนาดนั้น มีวิธีการกำจัดนก อีกหลายวิธี ที่ถึงแม้จะไม่สามารถกำจัดนกได้แบบ 100% แต่ก็สามารถควบคุมกำจัดนกให้อยู่ในปริมาณที่มีความเสี่ยงต่ำได้

ขั้นตอนการไล่นกกระจอก นกพิราบ

  1. จำแนกประเภทของนก

นกบางชนิดก็ง่ายต่อการระบุชนิด แต่ถ้าคุณไม่แน่ใจ ก็ควรจะมีการสอบถามผู้เชี่ยวชาญเรื่องนก ก่อนทำการกำจัด เนื่องนกบางชนิด อาจเป็นสัตว์คุ้มครองได้

  • ก่อนที่จะสอบถามผู้เชี่ยวชาญเรื่องนก ควรระบุลักษณะของนกที่พบ รูปร่าง ขนาด สี และพฤติกรรม ให้ชัดเจน
  • นกกระจอก นกนางนวล นกพิราบ แม้ว่ากฎหมายจะไม่คุ้มครองนกเหล่านี้ แต่บางครั้งอาจผิดหลักศาสนาในท้องถิ่นนั้นได้

  1. ตรวจสอบให้ถี่ถ้วน ก่อนทำการกำจัดนก

เมื่อคุณรู้ถึงชนิดของนกที่เราเจอแล้ว ทำการตรวจสอบเรื่องข้อกฎหมาย ให้ถี่ถ้วน เนื่องจากอาจมีกฎหมายคุ้มครองชนิดนกนั้นๆ

  • เมื่อคุณเจอรังนก ที่มีไข่อยู่ ควรทิ้งไว้สองสัปดาห์ เพื่อให้ไข่ฟักเป็นตัวลูกนกพร้อมบินไปก่อน แล้วค่อยกำจัดรังนก

  1. กำจัดรังนกที่พบ

ถ้าไม่ผิดข้อกฎหมายใดๆ ให้ทำการกำจัดรังนก ออกให้หมด พร้อมทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ หลังเอารังนกออกหมด

  • วิธีนี้คุณต้องทำซ้ำๆ ทุกครั้งที่เจอรังนกใหม่ๆ เข้ามา เช่นนกกระจอก ที่สร้างรังใหม่ได้รวดเร็วเราต้องรีบกำจัดรังมันก่อนทุกครั้ง ก่อนรังจะสร้างเสร็จ นกกระจอกจะไม่มาสร้างรังตรงนั้นอีก

  1. ค้นหาว่าอะไรที่ดึงดูดนกเข้ามา

มันจะเป็นงานง่ายกว่ามามัวแต่กำจัดรังนก ถ้าคุณรู้ว่าอะไรในบ้านคุณที่ดึงดูดนกเข้ามา แม้ว่าบางอย่างไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่ก็สามารถดัดแปลงให้นกรู้สึกไม่ปลอดภัยได้

  • อีกครั้ง จะเป็นประโยชน์กับรู้ว่านกชนิดใดที่คุณกำลังเผชิญกับ คุณอาจเรียนรู้ว่า นกบางอย่างดึงดูด หรือ ขับไล่ โดยบางสิ่งบางอย่าง เช่น นกกา จะตกใจ โดยมีเสียงนกกาตัวอื่น ๆ เราก็อาจใช้อุปกรณ์เสียงที่ส่งเสียงดัง เพียงพอที่จะขู่พวกเขาออกไป

  1. กำจัดแหล่งน้ำ

ถ้าคุณมีแหล่งน้ำต่างๆ เช่นน้ำพุ อ่างน้ำ ต่างๆ ภายในบ้าน คุณต้องทำให้มันยากการลงมาเล่นน้ำของนก หรือการลงมาเกาะของนก ที่ดีที่สุดคือการกำจัดแหล่งน้ำออกให้หมดจากตัวบ้าน

  • วิธีนี้จะช่วยคุณได้มาก หากคุณสามารถกำจัดแหล่งน้ำไม่ให้นกลงมาเล่นน้ำ หรือดื่มน้ำได้ นกจะไปหาแหล่งน้ำอื่นแทน

TSC บริการกำจัดนก แบบมืออาชีพ

3 วิธีง่ายๆ ไม่ต้องใช่สารเคมี ในการทำความสะอาดเชื้อรา

3 วิธีง่ายๆ ไม่ต้องใช่สารเคมี ในการทำความสะอาดเชื้อรา

เชื้อรา (Mold) อาจเติบโตในบ้านของคุณ และคุณไม่รู้มันครับ นั่นเป็น เพราะเชื้อราชอบขึ้นหรือเติบโตใน สถานที่ มืด อบอุ่น ชื้นอยู่ ชั้นใต้ดิน ห้องครัว และห้องน้ำ จะมีความเสี่ยงการเติบโตของเชื้อราและเชื้อแบคทีเรียมากที่สุด เนื่องจากมีความชื้น และมีเงื่อนไขในการเจริญเติบโตที่เหมาะสม เชื้อรา สามารถเจริญเติบโตภายใน 24-48 ชั่วโมง และเป็นสาเหตุของโรคทางเดินหายใจ เช่น โรคภูมิแพ้ตลอดปี แสดงให้เห็นถึงการรักษาสุขอนามัยภายในบ้านคุณไม่ดีพอเหตุผลทั้งหมดเหล่านี้ มันจะต้อง กำจัดเชื้อรา ตั้งแต่แรกพบ โดยไม่ต้องจ้าง บริษัทกำจัดเชื้อรา 
ก่อนที่คุณคว้าผ้าขนหนูชุบน้ำหมาด ๆ และคิดว่า นี่คือวิธีที่คุณจะกำจัดเชื้อรา ลองพิจารณาวิธีแก้ปัญหาเหล่านี้ โดยใช้สิ่งของในครัวเรือนเหล่านี้ สามอย่าง สำหรับการกำจัดเชื้อรา จากบ้านของคุณอย่างง่ายๆ คือ
1. ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen Peroxide)
เมื่อต้องการกำจัดเชื้อรา คุณจะรู้ว่า ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ เป็นเพื่อนที่ดีของคุณในการฆ่าเชื้อรา ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เป็นวิธีการที่ดีในการป้องกันและกำจัด เชื้อรา ไวรัส แล ะป้องกันแบคทีเรีย ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เป็นสาร ที่ฆ่าเชื้อราได้อย่างมีประสิทธิภาพ และใช้ได้กับวัสดุหลากหลาย เช่นเครื่องครัว วัสดุตกแต่งห้องน้ำ พื้น และผนัง
วิธีการฆ่าเชื้อรา: เท 3% ความเข้มข้น ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ลงในขวดสเปรย์ ฉีดพ่นบนพื้นผิวที่ขึ้นราทั้งหมด และปล่อยทิ้งไว้สิบนาที หลังจกนั้นทำความสะอาดบริเวณทั้งหมดที่พบคราบเชื้อรา
2. น้ำส้มสายชู (Vinegar)
เชื่อว่าเกือบทุกบ้านน่าจะมีน้ำส้มสายชูไว้ในบ้านของคุณ น้ำวิเศษนี้ นอกจากจะทำให้อาหารรสชาติดี และสามารถขจัดคราบหายไป น้ำส้มสายชูยังเป็นกรดอ่อนซึ่งสามารถฆ่า 82% ของสายพันธุ์เชื้อรา (สามารถใช้ควบคู่กับเบคกิ้งโซดาพร้อมกับน้ำส้มสายชู ในการฆ่าเชื้อรา ได้หลากหลายสายพันธ์ุ)
วิธีการฆ่าเชื้อรา: ใช้น้ำส้มสายชูกลั่น และเทลงในขวดสเปรย์ ฉีดพ่นสเปรย์น้ำส้มสายชูลงบนพื้นผิวที่ขึ้นรา และปล่อยทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง แล้วค่อย เช็ดพื้นที่ เพื่อทำความสะอาด ด้วยน้ำสะอาด และทำให้ผิวแห้ง กลิ่นจากน้ำส้มสายชู จะหมดภายในไม่กี่ชั่วโมง แต่ถ้ามันยังมีกลิ่นค้างอยู่ คุณสามารถเติมความสดใสพื้นที่ด้วยน้ำมะนาวลงไป เพื่อดับกลิ่น
3. เบคกิ้งโซดา (Baking Soda)
ผงเบคกิ้งโซดา สามารถใช้ฆ่าเชื้อราในบ้านของคุณ และ ปลอดภัยสำหรับสัตว์เลี้ยงและครอบครัว นอกจากฆ่าเชื้อราได้แล้ว มันยังดูดซับความชื้นเพื่อช่วยให้ เชื้อรา ไม่มาเกิดขึ้นอีก
วิธีการกำจัดเชื้อรา: ตักเบคกิ้งโซดา หนึ่งส่วนสี่ของช้อนโต๊ะผสมกับน้ำ ในขวดสเปรย์ และเขย่าจนละลายเข้ากัน สเปรย์บริเวณที่พบเชื้อรา ด้วยเบคกิ้งโซดาผสมน้ำ จากนั้นใช้ฟองน้ำ หรือแปรงเอาเชื้อราทั้งหมด ออกจากพื้นผิว ขัดถู ล้างพื้น ด้วยน้ำเพื่อขจัดเชื้อรา ที่ตกค้างบนผิว สุดท้ายพ่น เบคกิ้งโซดา ลงไปพื้นที่พบเชื้อรา อีกครั้ง และปล่อยให้ผิวแห้ง
วิธีการเหล่านี้ทั้งหมดเป็นการใช้สารเคมีง่ายๆ ที่ใช้ทำความสะอาดเชื้อรา ไม่เพียงแต่จะปลอดภัยต่อคนและสิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ทั้งหมดราคาไม่แพง และง่ายต่อเก็บรักษา
เชื้อราเป็นสิ่งที่เราต้องกำจัด เพื่อไม่ให้ก่อปัญหาทางเดินหายใจ อาการแพ้ ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือ.ในการทำสะอาดบ้านของคุณ พร้อมกำจัดเชื้อรา ด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ เพียงแค่โทรหาเราที่ บริษัท ไทยสกายคลีน 02-9932996 เราพร้อมเสมอที่จะให้ความช่วยเหลือคุณ TSC เป็น บริษัทกำจัดเชื้อรา และรับฆ่าเชื้อโรคอื่นๆ โดยวิธีการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ ที่มีประสิทธิภาพสูง พร้อมรับทำความสะอาด แบบครบวงจร

วิธีขจัดคราบมันให้ตู้ในครัว

ขจัดคราบมันให้ตู้ในครัว

ห้องครัวแต่ล่ะบ้านต้องพบเจอปัญหาคราบมันไม่พึงประสงค์ติดตามตู้ โต๊ะ ชั้นวางของ เวลาเราประกอบอาหารเสร็จแล้ว ไม่ว่าจะเช็ดถูทุกวัน คราบนั้นก็ยังเกาะติดไม่น่ามอง และยังทำให้ห้องครัวไม่สะอาด อาจก็ให้เกิดเชื้อโรค หรือเชื้อราขึ้นได้ วันนี้เรามีเทคนิคการทำความสะอาดคราบมัน ในครัว มาฝากกัน

วิธีทำความสะอาดห้องครัว

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

  วิธี ทำความสะอาดห้องครัว ห้องที่จัดว่ามีคราบหนักกระจายอยู่เต็มไปทั่วทุกพื้นที่่ แต่ถ้าอยากทำความสะอาดห้องครัวแบบล้ำลึก หมดจดทุกตารางนิ้ว เชื่อไหมคะว่าวิธีทำความสะอาดห้องครัวนั้นง่ายกว่าที่คุณคิดซะอีก

ห้องครัวที่สะอาดหมดจดไม่ได้แค่ดูน่าทำอาหารเท่านั้น แต่ยังหมายรวมไปถึงสุขอนามัยของทุกคนในบ้านก็จะปลอดภัยขึ้นด้วย ดังนั้นหากตอนนี้ห้องครัวของคุณมีสภาพไม่ใกล้เคียงคำว่าสะอาดเรียบร้อยสัก เท่าไร เราคิดว่าคุณคงต้องการวิธีทำความสะอาดห้องครัวอย่างล้ำลึกทุกตารางนิ้วมา เป็นไกด์ให้ทำตามแน่เลยใช่ไหมคะ ถ้าอย่างนั้นก็ลุยกันเลย

1. ถอดหัวเตาออกมาทำความสะอาด

ไม่ว่าจะเป็นเตาแก๊สหรือเตาไฟฟ้า ส่วนมากเตาจะสามารถถอดประกอบได้หมด และก็มักจะเปื้อนไปด้วยคราบอาหารและเศษอาหารด้วย ฉะนั้นให้ถอดส่วนประกอบของเตาออกมาทำความสะอาดก่อนเป็นอันดับแรก โดยใช้น้ำล้างจานผสมน้ำอุ่นและฟองน้ำขัดทำความสะอาด แต่ในส่วนหัวเตาแนะนำให้ใช้ฟองน้ำชุบน้ำหมาดจนเกือบแห้งค่อย ๆ เช็ดเศษสกปรกที่ตกค้างอยู่ให้หมดไป

2. ทำความสะอาดหน้าเตา

หลังจากล้างส่วนเตาแล้วตากทิ้งไว้ คราวนี้ถึงเวลาทำความสะอาดหน้าเตาแล้วค่ะ อุปกรณ์ก็เหมือนเดิม แค่น้ำอุ่น, น้ำยาล้างจาน และฟองน้ำนุ่ม ๆ เท่านั้นพอ ทว่าหากเจอคราบกำจัดยากอาจต้องขอแรงเบกกิ้งโซดาผสมน้ำส้มสายชูมาช่วยหมัก คราบก่อนเช็ดออกด้วยฟองน้ำหมาด

3. จัดการปุ่มเปิดเตา

ปุ่มเปิดเตาที่เยิ้มไปด้วยคราบมัน ให้ถอดออกมาแล้วทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างจานหรือน้ำสบู่ผสมน้ำอุ่น เพียงแต่ต้องตรวจสอบก่อนนะคะว่า น้ำยาล้างจานหรือสบู่ที่ใช้ไม่มีส่วนผสมของแอมโมเนียอยู่ด้วย ไม่อย่างนั้นปุ่มเตาแก๊สของเราอาจด่างดำได้

4. ปล่องดูดควันต้องสะอาดด้วย

สำหรับห้องครัวที่ติดตั้งปล่องดูดควันไว้ ให้ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นผสมน้ำยาล้างจานไปเช็ดทำความสะอาดทั้งภายในและภายนอก ปล่องดูดควันให้หมดจด แล้วต่อไปก็ควรถอดฟิลเตอร์ปล่องดูดควันมาล้างด้วยน้ำยางล้างจานเป็นประจำทุก เดือนด้วยนะคะ

5. ทำความสะอาดเตาอบ

เริ่มจากถอดตะแกรงออกมาแช่น้ำอุ่นผสมน้ำสบู่หรือน้ำยาล้างจานประมาณ 1-2 ชั่วโมง จากนั้นจึงใช้ฟองน้ำขัดทำความสะอาดตะแกรงก่อนนำไปตากลมให้แห้ง เสร็จแล้วผสมเกลือป่น ¼ ถ้วยตวง, เบกกิ้งโซดา ¾ ถ้วยตวง และน้ำสะอาด ¼ ถ้วยตวง โดยก่อนป้ายสวนผสมที่เตรียมไว้ให้ทั่วเตาอบ ให้ใช้กระดาษฟอยล์หุ้มส่วนผังวงจรหรือส่วนที่ไม่ควรโดนน้ำให้มิดชิดก่อนจึง ค่อยละเลงน้ำยาที่ผสมลงไป ทิ้งไว้ข้ามคืน วันรุ่งขึ้นค่อยเช็ดคราบออกด้วยผ้าชุบน้ำบิดหมาด


6. ล้างตู้เย็น

ถอดปลั๊กตู้เย็นเพื่อความปลอดภัยแล้วเริ่มเคลียร์พื้นที่ตู้เย็นให้โล่ง รวมทั้งถอดชิ้นส่วนที่ถอดได้ออกมาล้างด้วยน้ำยาล้างจานเสร็จแล้วตากลมให้ แห้ง จากนั้นผสมเบกกิ้งโซดา 2 ช้อนโต๊ะ กับน้ำ ¼ ถ้วยตวง สำหรับใช้เป็นน้ำยาล้างตู้เย็น แล้วจัดการทำความสะอาดตู้เย็นด้วยฟองน้ำหรือผ้าขนหนูให้ทั่วทุกตารางนิ้ว ตามด้วยเช็ดคราบออกด้วยผ้าชุบน้ำ ก่อนเช็ดพื้นที่ให้แห้งอีกครั้ง แล้วนำชิ้นส่วนที่ถอดออกไปล้างกลับเข้าที่ตามเดิม

7. ทยอยนำอาหารเข้าตู้เย็น

เมื่อคัดแยกอาหารเน่าเสียออกไปแล้ว ให้คุณทยอยเก็บอาหารที่เหลือเข้าตู้เย็น โดยก่อนแช่ควรใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดคราบสกปรกและกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่เกาะติด อยู่ออกไปให้หมดจด พร้อมกันนั้นแนะนำให้เทเบกกิ้งโซดาใส่ถ้วยแล้วนำไปแช่ในตู้เย็นเพื่อดับ กลิ่นไม่พึงประสงค์ด้วยนะคะ

8. เช็ดช่องแช่แข็งให้สะอาด

แม้ช่องแช่แข็งจะมีอุณหภูมิติดลบ ดูเหมือนจะไม่มีความสกปรกเท่าไร ทว่าจุดอับอย่างนี้กลับมีความสกปรกซ่อนอยู่ไม่น้อย ฉะนั้นเราก็ควรทำความสะอาดด้วยการผสมน้ำ 1 ถ้วยตวง, น้ำยาล้างจาน 1 ช้อนชา และน้ำส้มสายชู 1 ช้อนชา ลงในขวดสเปรย์ เขย่าให้ส่วนผสมเข้ากันดี แล้วนำไปฉีดให้ทั่วช่องแช่แข็ง ทิ้งไว้สักพักแล้วค่อยเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำหมาด ๆ ให้หมดจด แค่นี้คราบสกปรกและกลิ่นไม่พึงประสงค์ทั้งหลายก็หายวับไปกับตาแล้วจ้า

9. จัดระเบียบตู้เก็บของ

บางคนเก็บอาหารแห้งไว้ในตู้เก็บของหรือไม่ก็เก็บพวกจาน ชาม และเครื่องครัวต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยได้หยิบของในตู้มาใช้สักเท่าไร กลายเป็นเปิดโอกาสให้ฝุ่นไรและความสกปรกทั้งหลายมาสะสมอยู่ในนี้เต็มไปหมด ดังนั้นอันดับแรกให้เคลียร์ตู้เก็บของให้โล่ง คัดของหมดอายุและเหลือใช้ทิ้งไป จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดทำความสะอาด ตามด้วยผ้าแห้งทันทีเพื่อป้องกันตู้เก็บของเป็นคราบน้ำ สุดท้ายให้ทยอยเก็บของเข้าตู้เหมือนเดิม

10. เคาน์เตอร์ครัวสะอาดเอี่ยม

สำหรับเคาน์เตอร์ครัวที่ถูกใช้งานเป็นประจำควรเช็ดทำความสะอาดทุกครั้งหลัง การใช้งาน ทว่าสำหรับคราบหนักฝังแน่นต้องจัดการด้วยน้ำยาทำความสะอาดสำหรับห้องครัว โดยเลือกชนิดน้ำยาทำความสะอาดที่เหมาะสมกับพื้นผิวเคาน์เตอร์ของคุณด้วย

11. ขจัดคราบอ่างล้างจาน

ผสมน้ำอุ่นจัดกับน้ำยาล้างจานแล้วใช้ฟองน้ำชุบทำความสะอาดให้ทั่วบริเวณอ่าง ล้างจาน และต้มน้ำผสมน้ำยาล้างจานพร้อมทั้งน้ำส้มสายชูเล็กน้อย รอจนน้ำเดือดจัดจึงนำไปเทลงท่อน้ำทิ้งของอ่างล้างจานทันที เพื่อกำจัดทุกสิ่งอุดตันและคราบมันที่ตกค้าง

12. จัดการคราบน้ำด่างเป็นรอย

คราบน้ำสีขาวที่ปรากฏอยู่บนก๊อกน้ำสามารถกำจัดได้ง่าย ๆ ด้วยน้ำผสมน้ำส้มสายชูอย่างละครึ่ง จากนั้นนำผ้าขนหนูมาชุบก่อนนำไปเช็ดก๊อกน้ำให้ทั่ว เสร็จแล้วเช็ดอีกครั้งด้วยผ้าชุบน้ำสะอาด

13. ทำความสะอาดเครื่องครัว

เครื่องครัวอย่างไมโครเวฟและเครื่องปั่น รวมทั้งเครื่องครัวชนิดอื่น ๆ ควรนำออกมาทำความสะอาดด้วย โดยทางที่ดีให้ทำความสะอาดตามคำแนะนำจากคู่มือการใช้งาน ส่วนไมโครเวฟสามารถทำความสะอาดได้ง่าย ๆ ด้วยการบีบน้ำมะนาวผสมน้ำเปล่า นำไปอุ่นในไมโครเวฟด้วยอุณหภูมิสูงนาน 1 นาที จากนั้นใช้ฟองน้ำเช็ดคราบเปื้อนให้หมดจด

14. ปัด กวาด เช็ด ถู

เมื่อเคลียร์องค์ประกอบอื่น ๆ ในห้องครัวเกือบครบแล้ว คราวนี้ได้เวลามาจัดการทำความสะอาดพื้นที่โดยรวม โดยเริ่มแรกให้ปัดฝุ่นทุกพื้นที่ เน้นตามมู่ลี่ด้วย จากนั้นจึงค่อยกวาดฝุ่นให้สะอาดหรือจะดูดฝุ่นแทนก็ได้ ปิดท้ายด้วยการใช้ไม้ม็อบถูพื้นเป็นอันเรียบร้อย

15. นำขยะไปทิ้ง

งานสุดท้ายให้คุณไล่เก็บขยะจากทุกส่วนใส่ถุงปิดปากถุงให้สนิท ก่อนนำออกไปทิ้งให้เรียบ แค่นี้ก็ปิดจ๊อบได้เลยจ้า

ใครที่เคยเกี่ยงงานทำความสะอาดห้องครัวเพราะคิดว่ายุ่งยาก พอได้รู้วิธีทำความสะอาดห้องครัวอย่างล้ำลึกแบบนี้แล้วน่าจะกระตุ้นให้อยาก ทำความสะอาดห้องครัวได้ไม่มากก็น้อยเนอะ

สธ.ยันไม่มี ไข้เลือดออก สายพันธุ์ใหม่ เผยไทยมี 4 สายพันธุ์ ป่วยซ้ำได้อาการรุนแรงขึ้น

สธ.ยันไม่มี ไข้เลือดออก สายพันธุ์ใหม่ เผยไทยมี 4 สายพันธุ์ ป่วยซ้ำได้อาการรุนแรงขึ้น

 

สธ. ยันไม่มี ไข้เลือดออก สายพันธุ์ใหม่ ไทยระบาดแค่ 4 สายพันธุ์ สามารถเป็นซ้ำได้ 4 ครั้ง อาการจะรุนแรงขึ้น เผยสถานการณ์ป่วยพบกว่าแสนคนแล้ว แนะ ปชช. ร่วมกำจัดลูกน้ำยุงลาย

นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณี ปอ ทฤษฎี สหวงษ์ ดารานักแสดงป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก และมีกระแสว่าเป็นไข้เลือดออกสายพันธุ์ใหม่ ว่า โรคไข้เลือดออกที่พบในไทยเกิดจากไวรัสเดงกี มี 4 สายพันธุ์ มียุงลายเป็นพาหะนำโรค โดยยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีสายพันธุ์ใหม่ ส่วนการป้องกันโรคไข้เลือดออกนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือป้องกันไม่ให้ถูกยุงกัด เพราะยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออก แต่จากการประเมินสถานการณ์สัปดาห์ที่ผ่านมา แนวโน้มจำนวนผู้ป่วยแต่ละ จังหวัดยังคงที่ มีบางพื้นที่ที่พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น ส่วนการตรวจประเมินลูกน้ำยุงลาย ยังพบว่า ภาชนะที่มีขังน้ำตามบ้านเรือน วัด และโรงเรียน มีลูกน้ำยุงลายและเกิดเป็นตัวยุง ได้กำชับให้สถานบริการและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยว ข้องรณรงค์ให้ทุกหมู่บ้านร่วมกันกำจัดลูกน้ำยุงลายทุกสัปดาห์ และป้องกันตัว เองไม่ให้ถูกยุงกัด

นพ.อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า ผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกจะมีอาการไข้สูงลอย คลื่นไส้ อาเจียนเป็นเลือด เบื่ออาหาร หน้าแดง มีจุดเลือดที่ผิวหนัง เลือดกำเดาไหล มีเลือดออกตามไรฟัน ขอให้รีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยโรคและ รักษา หากเป็นไข้เลือดออกแล้ว ช่วงระยะไข้ลดลงในวันที่ 3 – 4 ของการป่วย หากผู้ป่วยมีอาการซึมลง กินอาหารดื่มน้ำไม่ได้ อาจเข้าสู่ภาวะช็อก ต้องได้ รับการดูแลรักษาอย่างทันท่วงที เพื่อป้องกันการเสียชีวิต ทั้งนี้ การติดเชื้อครั้งแรกอาการจะไม่รุนแรงมาก แต่การติดเชื้อครั้งที่สองที่ต่างสายพันธุ์จะทำให้เกิดอาการรุนแรง

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดี คร. กล่าวว่า สถานการณ์ในประเทศตั้งแต่ ม.ค.- พ.ย. 2558 พบผู้ป่วยไข้เลือดออก 102,000 ราย เสียชีวิต  102 ราย ถือว่าไข้เลือดออกระบาดหนัก แต่ไม่รุนแรงเท่าปี 2556 แต่หากพิจารณาในช่วง ต.ค.-พ.ย. พบป่วยมากขึ้นกว่าปีก่อน แต่ถือว่าผู้ป่วยเริ่มชะลอตัวลง โดยพบผู้ป่วยรายใหม่ 3,000 – 4,000 รายต่อสัปดาห์ จากช่วงที่มีการระบาดสูงสุดใน ส.ค. มีผู้ป่วย 7,000 รายต่อสัปดาห์ ทั้งนี้ ไข้เลือดออกเป็นโรคที่มีความรุนแรงสูง หากมีผู้ป่วย 1,000 ราย จะเสียชีวิต 1 ราย จาก 2 สาเหตุ คือ 1.ภาวะเลือดออก และ 2. เลือดรั่วจากเส้นเลือดและเกิดภาวะช็อกและเสียชีวิตได้

    “ ที่น่าสังเกตคือปีนี้อากาศร้อนค่อนข้างมาก ซึ่งเอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัสเดงกี บวกกับฝนตก ๆ หยุด ๆ ทำให้ลูกน้ำยุงลายมีปริมาณมาก และเจริญเติบโตได้ดี โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ เมื่อมีฝนตกมากคนอยู่รวมกันหนาแน่น โอกาสที่จะแพร่ระบาดก็เพิ่มมากขึ้น เช่น นครราชสีมา เชียงใหม่ กทม. ซึ่งการป้องกันที่สำคัญที่สุดต้องกำจัดลูกน้ำยุงลาย เพราะลูกน้ำที่เกิดจากยุงลายที่มีเชื่อไข้เลือดออกก็จะมีเชื้ออยู่ในตัวเลย แต่ปัญหาคือเจ้าของบ้านไม่กำจัดทุกสัปดาห์ และไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่เข้าไปกำจัดให้ภายในบ้าน จึงทำได้แค่บริเวณท่อระบายน้ำ ซึ่งไม่ตรงจุด เพราะลูกน้ำตามท่อน้ำเป็นยุงรำคาญ ” นพ.โอภาส กล่าว

นพ.โอภาส กล่าวว่า ขอย้ำว่าไม่มีสายพันธุ์ใหม่ และความรุนแรงของทั้ง 4 สายพันธุ์ไม่ต่างกันมาก โดยแต่ละปีจะพบทั้ง 4 สายพันธุ์แบบวนเวียนกันไป บางปีสายพันธุ์ 2 อาจจะระบาดมากในภาคใต้ สายพันธุ์ 3 อาจจะระบาดมากในภาคเหนือ เป็นต้น ดังนั้น คนหนึ่งคนจะสามารถเป็นไข้เลือดออกได้ 4 ครั้ง แต่จะไม่ได้เกิดจากสายพันธุ์เดิม เนื่องจากร่างกายจะมีภูมิต้านทาน ทั้งนี้ การป่วยไข้เลือดออกครั้งแรกจะไม่ค่อยรุนแรงมาก แต่หากเป็นครั้งที่ 2 จะเกิดความรุนแรงมากขึ้น เลือดออก และช็อกได้ ส่วนการวินิจฉัยโรค ในช่วงแรกจะแยกจากอาการไข้ทั่วไปค่อนข้างยาก ต้องเจาะเลือดตรวจ ซึ่งหากป่วยเพียง 1-2 วัน การเจาะเลือดตรวจอาจจะไม่พบเชื้อ ต้องใช้เวลา 3 – 4 วัน แต่ขึ้นอยู่กับปัจจัยส่วนบุคคลด้วย การเจาะเลือดครั้งแรกจึงอาจไม่เจอเชื้อไข้เลือดออกก็ได้ ซึ่งการรักษายังไม่มียาเฉพาะ ต้องรักษาแบบประคับประคอง ส่วนวัคซีนยังอยู่ในขั้นตอนการขอขึ้นทะเบียนยา ทั้งนี้ จากการสำรวจคนไทยรู้จักไข้เลือดออกกว่า 80% แต่มีส่วนร่วมในการป้องกันโรค กำจัดลูกน้ำยุงลายเพียง 20%

หมอเผย “ปอ ทฤษฎี” ป่วย ไข้เลือดออก สายพันธุ์ 2 ปริมาณไวรัสในร่างกายค่อนข้างสูง ชี้ เป็นการป่วยครั้งที่ 2 อาการจึงรุนแรง

   นพ.สุธี ยกส้าน ผู้ เชี่ยวชาญด้านการพัฒนา วัคซีนไข้เลือดออก จากศูนย์วิจัยและพัฒนาวัคซีน มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า เมื่อวันที่ 10 พ.ย. ที่ผ่านมา โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้ส่งตัวอย่างเลือดของ ปอ ทฤษฎี สหวงษ์ ดารานักแสดง เข้ามาตรวจหาสายพันธุ์เชื้อไวรัสไข้เลือดออก ที่ศูนย์ฯ ซึ่งผลการตรวจพบว่า เป็นเชื้อไวรัสเดงกีสายพันธุ์ที่ 2 ซึ่งความรุนแรง ไม่ได้มีความแตกต่างจากสายพันธุ์อื่น อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังพบปริมาณไวรัสในร่างกายค่อนข้างสูง อีกทั้งยังเป็นการป่วยครั้งที่ 2 จึงทำให้ผู้ป่วยยังมีอาการรุนแรง แต่จากการให้การรักษาของทางโรงพยาบาลรามาฯ ที่มีการระดมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และวิธีการรักษาที่ดี ซึ่งตอนนี้ถือว่ายังมีความหวังในการรักษาผู้ป่วยรายดังกล่าว

ล่าสุด รพ.รามาธิบดี แถลงชี้แจงอาการป่วย “ปอ ทฤษฎี” ฉบับ 2

ความคืบหน้าอาการป่วยของ นายทฤษฎี สหวงษ์ (ปอ) ดังนี้
อาการโดยทั่วไปสามารถควบคุมอาการเลือดออกได้ แต่ยังต้องได้รับเลือด และส่วนประกอบของเลือดอยู่เป็นระยะ ส่วนภาวะไตวายเฉียบพลันยังคงที่ และยังต้องใช้เครื่องฟอกไตอยู่อย่างต่อเนื่อง

ในช่วงบ่ายของวันนี้ ผู้ป่วยยังคงมีความดันโลหิตต่ำเป็นระยะ ๆ ซึ่งต้องใช้เครื่องพยุงการทำงานของปอดและหัวใจ (Extracorporeal Membrane Oxygenator: ECMO)

ในขณะนี้ ผู้ปวยยังอยู่ในภาวะวิกฤต และยังต้องได้รับการเฝ้าระวังใน CCU อย่างต่อเนื่อง

        สธ. ชี้ ป่วย “ไข้เลือดออก” ซ้ำต่างสายพันธุ์ เสี่ยงอาการรุนแรง เผย ร่างกายบางคนกระตุ้นภูมิคุ้มกันรวดเร็วต่อเนื่อง เส้นเลือดรั่วสูญเสียสารน้ำ เกล็ดเลือด ร่างกายทรุดเร็วจนเกิดภาวะช็อก เช่น เคส “ปอ ทฤษฎี” มักพบในคนแข็งแรง ชี้ หากพ้นวิกฤตใน 48 ชั่วโมง อาการจะดีขึ้น

นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า การควบคุมโรคไข้เลือดออกต้องอาศัยความร่วมมือทุกภาคส่วน โดยเฉพาะนักเรียนที่ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงที่สุดต้องช่วยกันกำจัดลูกน้ำยุง ลาย ก็จะสามารถช่วยลดอุบัติการณ์ลงได้ ทั้งนี้ สธ. จะทำหนังสือประสานไปยังกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เพื่อขอให้เอาชั่วโมงลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ให้นักเรียนไปช่วยกันกำจัดลูก น้ำยุงลายในโรงเรียน

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า จากการสำรวจ พบว่า บ้านของคนไทยยังพบแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายอยู่ 30% ในโรงเรียนพบมาก 40% ส่วนในวัดพบแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายมากถึง 60% การป้องกันและลดการเจ็บป่วยไข้เลือดออกทุกฝ่ายจึงต้องร่วมมือกันในการควบคุม โรค สำหรับโรคไข้เลือดออกนั้น เกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี ในประเทศไทยมีอยู่ 4 สายพันธุ์ โดยทั้ง 4 สายพันธุ์ความรุนแรงของโรคไม่ต่างกัน แต่พบว่าเมื่อป่วยไข้เลือดออกจากสายพันธุ์ใดสายพันธุ์หนึ่งแล้ว เมื่อกลับมาป่วยโรคไข้เลือดออกอีกด้วยสายพันธุ์อื่นมักจะมีอาการรุนแรงขึ้น ซึ่งอาการรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้น เนื่องจากร่างกายเรามีภูมิต้านทานที่เกิดจากเชื้อไวรัสเดงกีอยู่ก่อนแล้ว อย่างเช่น กรณีของนักแสดงหนุ่มปอ ทฤษฎี สหวงษ์ ที่อาการรุนแรง เพราะภาวะภูมิต้านทานทำงานมากเกินไป ก็เพราะร่างกายตอบสนองต่อเชื้อไวรัสและกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นอย่าง รวดเร็ว

“ ตรงนี้เป็นกลไกของร่างกายที่เมื่อได้รับเชื้อเข้าไปแล้ว ภูมิคุ้มกันในเลือดก็จะไปจับสารไวรัส และกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายขึ้นมา ซึ่งบางคนกระบวนการนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วต่อเนื่อง ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและปฏิกิริยาของแต่ละบุคคลด้วย ทำให้เกิดการไปทำลายเซลล์อื่น ๆ ในร่างกาย หากเกิดที่หลอดเลือดก็จะทำให้สารน้ำรั่วออกจากเส้นเลือด ร่างกายจึงสูญเสียสารน้ำและเกล็ดเลือด ทำให้เกิดภาวะช็อกขึ้นได้ นอกจากนี้ หากไปเกิดที่อวัยวะอื่นก็จะทำให้ระบบอวัยวะนั้นเสียหาย ซึ่งเรื่องนี้ไม่สามารถคาดเดาได้ ถือว่าเป็นช่วงวิกฤตที่เกิดขึ้น 48 ชั่วโมง หากผ่าน 48 ชั่วโมงนี้ไปได้ ร่างกายก็จะฟื้นตัว เหลือเพียงการรักษาภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้น ส่วนกรณีของนักแสดงหนุ่มนั้นไม่ทราบว่าเริ่มเกิดภาวะดังกล่าวในช่วงเวลาใด ” นพ.โอภาส กล่าวและว่า ภาวะเช่นนี้ถือว่าพบได้บ่อย อย่างอัตราการเสียชีวิตของไข้เลือดออกที่พบว่า ป่วย 1,000 ราย มักเสียชีวิต 1 รายนั้น ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ก็เป็นเพราะมีอาการรุนแรง และส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นกับคนที่แข็งแรง

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า  ข้อสังเกตของการเกิดโรคไข้เลือดออกในช่วงระยะ 5 ปีที่ผ่านมา พบว่า 1. กลุ่มอายุมีความเปลี่ยนแปลงไป ทำให้สามารถเป็นไข้เลือดออกได้ทุกกลุ่มวัยไม่เฉพาะเด็ก ซึ่งเมื่อเป็นกลุ่มวัยอื่นทำให้แพทย์ไม่ค่อยนึกถึงไข้เลือดออก แต่มีการย้ำ เตือนให้แพทย์ตระหนักถึงโรคไข้เลือดออกว่าเป็นโรคประจำถิ่น 2. น้ำหนักตัวที่ไม่สัมพันธ์กับอายุ ทำให้การวินิจฉัยไม่ชัดเจน รวมทั้งการรักษาที่ทำให้แพทย์ปรับขนาดยาได้ยากขึ้น 3. พื้นที่ในการระบาดของโรคที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ทำให้บางครั้งประชาชนในพื้นที่ไม่ได้ตระหนักมากพอ และ 4. พบว่าบางคนป่วยมากกว่า 1 โรค พร้อมกัน เช่น ป่วยเป็นไข้หวัด พร้อมไข้เลือดออก ก็จะทำให้อากาของโรคแย่ลง

“สิ่งที่ต้องระวังคือในช่วงไข้ลง หากไข้ลงจากการที่อาการดีขึ้น ผู้ป่วยจะรู้สึก หิวอยากทานอาหาร หรือสดใสขึ้น แต่ผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก มักจะไข้ลง ตัวเย็น แต่ซึมลง ไม่อยากอาหาร ซึ่งอาการดังกล่าวเป็นสัญญาณอันตรายว่าอาจเข้าสู่ภาวะช็อก ทั้งนี้ หากเกิดโรคในเด็กส่วนใหญ่พ่อแม่จะสังเกตได้เร็วเพราะเด็กจะซึมอย่างเห็นได้ ชัด แต่เมื่อเป็นผู้ใหญ่จะอดทนมากกว่าทำให้อาการของโรคดำเนินมาถึงจุดที่แย่ลง” นพ.สุวรรณชัย กล่าว

ที่มา www.manager.co.th

ทรายกำจัดลูกน้ำ  สารเคมีกำจัดยุง

 

ปลวก Vs บริษัทกำจัดปลวก เลือกอย่างไร

ปลวก vs บริษัทกำจัดปลวก เลือกอย่างไร

ปลวก vs บริษัทกำจัดปลวก เรามาทำความรู้จักปลวกกันก่อนว่า ปลวก ตัวแรกของโลกถือกำเนิดเมื่อประมาณ 220 ล้านปีมาแล้ว การขุดพบซากฟอสซิลของปลวก โดย E.M. Bordy แห่งมหาวิทยาลัย Witwatersrand ในแอฟริกาใต้ทำให้นักชีววิทยาสัตว์ดึกดำบรรพ์รู้ว่าปลวกโบราณมีรูปร่างที่ ละม้ายคล้ายคลึงแมลงสาบปัจจุบันมาก แต่มีขนาดเล็กกว่า และมีผิวอ่อนนุ่มกว่า ถึงแม้โลกทุกวันนี้มีปลวกมากกว่า 2,000 ชนิด แต่ก็มีเพียงไม่กี่ชนิดที่ชอบอาศัยอยู่ในเนื้อไม้ของอาคารบ้านเรือน ซึ่งนับเป็นภัยต่อที่อยู่อาศัย เพราะปลวกจะกัดกินสรรพสิ่งที่ทำด้วยไม้จนหมด และนั่นก็หมายความว่า เจ้าของบ้านจะต้องอพยพออกจากบ้านในที่สุด

ปลวกเป็นสัตว์สังคมที่ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง มันทำมาหากินและดูแลกันอย่างเป็นทีม ลักษณะนิสัยเช่นนี้ทำให้มนุษย์หรือสัตว์อื่นๆ ปราบปรามหรือกำจัดมันได้ยาก ดังนั้น เวลาจะสร้างบ้าน เจ้าของบ้านควรใช้วิธีฉีดสารเคมีตามรังของมันที่อาจอยู่ในตอไม้หรือเศษไม้ ใต้ดินให้ทั่ว เพื่อจะได้มั่นใจว่าปลวกตายหมด เพราะเหตุว่ายากำจัดปลวกเป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตซึ่งหมายถึงมนุษย์ด้วย ดังนั้น การพ่นยากำจัดปลวกจึงต้องดำเนินไปอย่างระมัดระวังและสม่ำเสมอ โดยไม่ต้องรอให้แมลงเม่า ซึ่งเป็นปลวกในระยะสืบพันธุ์ต้องบินว่อนออกมา เพราะถ้าถึงเวลานั้น ทุกอย่างที่เป็นชิ้นส่วนของบ้านก็ตกอยู่ในภาวะอันตรายเรียบร้อยแล้ว

การใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในจอมปลวก และใต้ดินทำให้เราไม่ได้ศึกษาธรรมชาติของปลวกอย่างใกล้ชิด จนทำให้คนหลายคนคิดว่าปลวกคือ มดขาว แต่ในความเป็นจริงปลวกและมดเป็นสัตว์คนละชนิดกัน เพราะมดเป็นสัตว์ในอันดับ Hymenoptera และปลวกอยู่ในอันดับ Isoptera ทั้งนี้เพราะปีกของมดสั้น และมีขนาดไม่เท่ากัน แต่ปีกของปลวกยาวและใหญ่เกินตัว อีกทั้งมีขนาดเท่ากันด้วย นอกจากความแตกต่างเรื่องปีกแล้ว สรีระส่วนที่เป็นเอวก็แตกต่างกัน คือมดมีเอว แต่ปลวกไม่มี และเวลามดตัวผู้ผสมพันธุ์กับราชินีมดแล้ว มันจะตายในเวลาต่อมาอีกไม่นาน ส่วนปลวกตัวผู้เมื่อได้เสพสมกับราชินีปลวกแล้ว มันจะช่วยกันสร้างอาณาจักรปลวกให้มีบริเวณเพียงพอสำหรับให้ลูกปลวกเจริญเติบ โต เพราะราชินีปลวกที่เติบโตเต็มที่อาจมีลำตัวยาวตั้งแต่ 9-12 เซนติเมตร และเวลาตั้งครรภ์ มันจะเดินไปไหนมาไหนไม่ได้ ถึงกระนั้นมันก็ไม่อดอาหารตาย เพราะมันมีปลวกงานที่มีนิสัยขี้อายแต่ขยันขันแข็งเดินหน้าหาอาหารมาให้ ราชินีของมันเสวยตลอดวัน และมันยังช่วยทำความสะอาดตัวให้ราชินีของมันด้วย โดยการเลียตามตัวตลอดเวลา และเมื่อราชินีปลวกวางไข่แล้ว ปลวกงานก็จะขนไข่ไปเรียงให้เป็นที่เป็นทาง และหาอาหารมาเลี้ยงปลวกอ่อนที่ยังช่วยตัวเองไม่ได้ด้วย นักชีววิทยายังพบอีกว่า ปลวกบางชนิดรู้จักทำสวนรา ซึ่งให้ cellulose อันเป็นอาหารโปรดของมัน โดยมันจะขนใบหญ้าใบไม้มาวางกองจนใบไม้กลายสภาพเป็นรา อนึ่งราที่กำลังเจริญเติบโต มันจะคายไอน้ำออกมา ทำให้ความชื้นของบรรยากาศในรังอยู่ที่ระดับพอดีด้วย

นางพญาปลวกกับบริวารปลวก

ส่วนราชาปลวกนั้น ไม่ต้องทำมาหากินใดๆ เพราะอาณาจักรปลวกได้กำหนดหน้าที่หาอาหารให้ปลวกงานทำแล้ว มันจึงมีหน้าที่อย่างเดียวเท่านั้น คือสืบพันธุ์กับราชินีปลวกในเวลากลางคืน ซึ่งเป็นยามที่ศัตรูปลวกอันได้แก่ มด แมลงเต่าทอง ตัวต่อ กิ้งก่า ตะกวด ตะขาบ และคนนอนหลับพักผ่อน ทำให้ประสิทธิภาพในการสร้างปลวกอ่อนของมันไม่ถูกกระทบกระเทือน

ปลวกทหารเป็นปลวกอีกประเภทหนึ่งที่น่าสนใจ ปลวกประเภทนี้มีเขี้ยวสำหรับต่อสู้ศัตรูเช่น มดที่ชอบขโมยไข่ปลวกไปกิน ถึงแม้มดจะมีขนาดใหญ่กว่า และปลวกไม่มีตาจะเห็นข้าศึก แต่ปลวกทหารก็สามารถป้องกันรังของมันได้อย่างไม่ย่อท้อ โดยมันจะใช้เขี้ยวกัดแล้วปล่อยยางเหนียวๆ ออกมาตามตัวมด ซึ่งจะส่งกลิ่นล่อให้ปลวกทหารตัวอื่นๆ เข้ามากลุ้มรุมกัดมดที่บุกรุกรังมันจนตาย

อาณาจักรปลวกมีการปกครองแบบสมบูรณาสิทธิราชย์ คือมีราชินีปลวกเป็นเจ้าแม่ผู้ทรงอำนาจสูงสุด เพราะเจ้าแม่ปลวกบางพันธุ์อาจมีอายุยืนนานถึง 100 ปี ดังนั้น การมีประสิทธิภาพสูงในการผลิตปลวก จึงทำให้สมาชิกปลวกมีจำนวนเพิ่มขึ้นๆ ตลอดเวลา และนั่นก็หมายความว่า รังปลวกจะต้องมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ไม่มีปัญหาใดๆ เพราะปลวกงานมีความสามารถด้านสถาปัตยกรรมสูง โดยมันจะขนดินจากใต้ดินขึ้นมาบนดิน และวางให้เป็นกองแล้วใช้น้ำลายเป็นตัวเชื่อมเนื้อดิน จนได้จอมปลวกที่อาจสูงถึง 7 เมตร และนั่นก็หมายความว่า ถ้ามนุษย์จะเก่งเท่าปลวกในการสร้างบ้าน เราต้องสร้างตึกให้สูงเท่าดอยอินทนนท์ การไม่มีตาจะดู ทำให้ปลวกไม่รู้แม้แต่น้อยว่ารูปร่างในภาพรวมของรังมันมีหน้าตาอย่างไร แต่ในรายละเอียดเล็กน้อยมันรู้ดีเช่น มันรู้ว่ามันต้องสร้างรังให้เอียงเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำท่วมขัง และรังของมันต้องมีรูระบายอากาศเข้าออก อีกทั้งรูต้องมีลิ้นปิดเปิดให้ความชื้นภายในรังอยู่ที่ระดับพอดี สำหรับปลวก 2 ล้านตัวด้วย ทั้งๆ ที่ปลวกเหล่านี้หายใจก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาชั่วโมงละ 40 ลิตร

ความสามารถด้านกินของปลวกก็เป็นเรื่องมหัศจรรย์ เพราะมันกินได้ทั้ง cellulose และยางที่หุ้มสายโทรศัพท์หรือสายไฟฟ้า และในยามที่อาหารขาดแคลน มันก็อาจกินญาติที่อ่อนแอและลูกอ่อน หรือเวลาราชินีปลวกสิ้นพระชนม์ ปลวกบริวารก็จะจับซากราชินีมาสังเวยกินกัน

ต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง Nepenthes albomarginata กับปลวกงาน

ในวารสาร Nature ฉบับที่ 415 ประจำวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2545 M. A. Merbach แห่งมหาวิทยาลัย Wolfgang Goethe ในประเทศเยอรมนี กับคณะได้รายงานว่า ต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง Nepenthes albomarginata ซึ่งตามปกติจะหาอาหารโดยวิธีล่อสัตว์ขนาดเล็กเช่น มดให้ตกลงไปในโพรงหม้อ แล้วมันก็ขับน้ำย่อยออกมาย่อยเหยื่อที่เคราะห์ร้ายนั้น ใช้ขน (trichome) ที่ขึ้นตามบริเวณขอบปากหม้อล่อปลวก Hospitalitermes bicolor ให้เดินไปสู่ความตาย เพราะปลวกชนิดนี้เวลาเห็นขนขาวที่ขอบปากหม้อ มันจะหันกลับมาบอกเพื่อนปลวกให้เดินไปกินขนเหล่านั้นจนบริเวณขอบปากหม้อโล่ง และลื่น ทำให้ปลวกทั้งหลายร่วงตกลงในหม้อ ถึงชั่วโมงละ 22 ตัว และเมื่อขนบริเวณขอบปากไม่มีแล้ว ต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงต้นนั้น ก็ไม่เป็นที่พึงประสงค์ของปลวกใดๆ อีกต่อไป งานวิจัยนี้มีความสำคัญตรงที่ได้พบว่า N. albomarginata เป็นพืชกินสัตว์ชนิดแรกที่ใช้เนื้อเยื่อของตนล่อสัตว์ให้ตกเป็นเหยื่อ

ในวารสาร Proceedings of the National Academy of Sciences ฉบับที่ 99 หน้า 6,838 ปี พ.ศ. 2545 J. Traniello แห่งมหาวิทยาลัย Boston ในสหรัฐอเมริกาได้รายงานว่า ปลวกมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคเหมือนมนุษย์ และนี่ก็คือเหตุผลหลักที่ทำให้สัตว์สังคมชนิดนี้มีอายุยืนนานนับ 200 ล้านปี โดย Traniello ได้อ้างถึงกรณีมดที่เวลาตายลง มดตัวอื่นๆ จะช่วยกันขนศพมดออกจากรังทันที เพื่อไม่ให้โรคจากมดตายมาคุกคามมดที่ยังมีชีวิตอยู่ หรือผึ้งเวลาราในรังระบาด มันก็จะรวมกลุ่มกันทำให้บริเวณที่มันเกาะกลุ่มนั้นมีอุณหภูมิสูงจนสามารถฆ่า ราได้ นั่นคือสัตว์สังคมเหล่านี้มีวิธีป้องกันโรคระบาดด้วยวิธีต่างๆ กัน ปลวก Zootermorpsis angustieollis ก็เช่นกัน เวลามีโรคระบาด ปลวกที่รอดตายจะมีภูมิคุ้มกัน และมันจะถ่ายทอดภูมิคุ้มกันนี้สู่ปลวกตัวอื่นๆ โดยถ่ายบักเตรีในกระเพาะให้ปลวกอื่นกิน ดังนั้น บักเตรีซึ่งสามารถทำหน้าที่ภูมิคุ้มกัน จึงสามารถผ่านจากปลวกตัวหนึ่งไปสู่ปลวกตัวอื่นๆ ได้

ณ วันนี้ ปลวกกำลังคุกคามอาคารสถานที่อยู่อาศัยของมนุษย์ทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ซึ่งต้องใช้งบประมาณ 45,000 ล้านบาท/ปี ในการต่อสู้ปลวก Formosan การสำรวจทำให้รู้ว่าขณะนี้ปลวก Formosan ในอเมริกามีประมาณ 500,000-3.5 ล้านตัว ปลวกอันตรายพันธุ์นี้ได้ติดมากับเรือจากเอเชียเมื่อประมาณ 60 ปีก่อนนี้ และขณะนี้ได้เข้ามาอาศัยอยู่ตามต้นไม้ ตามบ้านในรัฐทางใต้ และฮาวาย โดยเฉพาะที่เมือง New Orleans มีปลวก Coptotermes formosanus มากเป็นพิเศษ เพราะที่นี่มีอากาศอบอุ่น มีความชื้นสูง และบ้านไม้ในเมืองมักมีเถาวัลย์ปกคลุม

อนึ่งในการต่อสู้ปลวกนั้น คนกำจัดปลวกใช้กล้อง infrared ส่องตามผนัง เพราะรู้ว่าถ้าที่ใดมีปลวกอาศัยอยู่บริเวณนั้น จะมีความร้อนมาก ปลวกจำนวนมากจะแผ่รังสีอินฟราเรดออกมามากซึ่งกล้องสามารถรับได้ นักกำจัดปลวกบางคนใช้วิธีส่งคลื่น microwave ไปกระทบผนัง ถ้าคลื่นกระทบปลวกที่กำลังเคลื่อนที่ คลื่นที่สะท้อนกลับออกมาจะทำให้เจ้าหน้าที่รู้ได้ว่าภายในกำแพงหรือผนังนั้น มีปลวกหรือไม่ และเมื่อรู้ว่าปลวกมีจริงแล้ว หน้าที่ต่อไปคือ กำจัดมันโดยอาจใช้ยาฉีดที่ทำด้วย hexaflumuron ซึ่งจะทำให้ปลวกที่ลอกคราบมีปัญหา เพราะสารเคมีชนิดนี้สามารถทำให้เปลือกหุ้มตัวปลวกไม่แข็งตัว และปลวกก็จะตาย หรือฉีดพ่นด้วย chlorfenapyr ก็เป็นการฆ่าปลวกด้วยสารเคมีอีกวิธีหนึ่ง วิธีการเปลี่ยนแปลงยีน (gene) ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่กำลังได้รับการพิจารณาว่าเป็นวิธีกำจัดที่ดี โดยพยายามเปลี่ยนแปลงตัวอ่อน เป็นปลวกทหารให้หมด เพราะปลวกทหารเป็นหมัน และไม่มีหน้าที่หาอาหาร ดังนั้น ถ้ารังปลวกมีปลวกทหารมาก ปลวกงานก็ต้องหาอาหารมากขึ้นๆ จนในที่สุดปลวกงานก็จะล้มตาย และปลวกทหารก็จะล้มตาย

สุทัศน์ ยกส้าน ภาคีสมาชิก ราชบัณฑิตยสถาน

Termite Pest Control

Termite Baiting Systems in Bangkok, THAILAND

Welcome to  Thai Sky Clean company – Termite Baiting Control, a division of Pest Control, Inc. your best resource for pest control supplies for residential and commercial control of pests, including termite treatment.

For the last 33 years, customers in our stores and visitors to our website have asked,” What can I do for termites myself ?” Many times we have suggested that they get a Pest Control Service Company to do the work for Subterranean (Ground) termites, because of the many different factors, particularly on slabs or basements. In most all cases, a service company would be needed for Drywood termite control.

1. How to do your own termite baiting, you will find the “how” of doing your own pest termite control using Termite Baits such as the Advance Termite System that work for Subterranean Termites.

The Advance Termite Bait System has chitin inhibitors, similar to the system used by Xterm . Advance Termite System is labeled for pre treatments (pre constructions).

2. Termite Baiting System Treatments, you will find the “how” of doing your own pest and termite control using Xterm Termite Baiting System

Xterm – Conventional termiticide treatments often involve the drilling and pumping of large volumes of chemical into the soil with a variety of associated side effects including disturbance and even property damage. In comparison, termite baiting is an environmentally friendly way of treating termite infestations, using very small amounts of a pest-specific chemical in a non-disruptive low hazard application. Baits are ideal for all situations, even those sensitive to insecticide use

Doing Your Own Termite Work

  • DIY termite work, in particular, applying chemicals for termites, may not be for everybody. We also hope to help you with guidelines for finding a qualified service company that treats termites at How to Choose a Pest Control Service.
  • At Termite Home Inspections, you will find a series of pictures showing damage from termites, powder post beetles and carpenter ants.
  • Can I apply termite chemicals myself ? is designed to answer that question. It will give you recommendations and instructions if needed to treat for termites.
  • Traditional / standard termite chemical barrier treatments for Subterranean (ground) termites are designed to prevent them from entering the structure. They also will prevent termites inside the structure from getting to the soil to get the moisture needed to survive.
    The currently available chemical barrier pesticides are very short lived, in some cases, no more than 3-5 years. The concept of using a chemical barrier treatment as a the sole means of controlling subterranean termites has been challenged by baits designed for termites.
  • There are various Baiting systems, for termites on the market. You can place termite bait directly into the ground around the outside of a structure which the termites will find, feed on and die. The technology of termite bait systems are constantly changing and improving.
    Baiting colonies of termites is simple and can also be used as a monitoring tool to detect termites where they are not yet a problem.
    Termite baits eliminate and control in conditions where the structure is untreatable with soil termiticides (near a body of water for example), or there is a concern about pesticide use, and even in structures where soil treatments have failed.

Additional Information

  • The Subterranean (Ground) Termites will have colonies in the ground; they build vertical tunnels that look like mud tubes above ground level so that they can search for food.
    Subterranean termites can form tunnels through cracks in concrete, so slab homes are not exempt from these termites. Subterranean termites will die if exposed to air for an extended period; tunnels are used for transporting the food to the nest and protecting themselves. Subterranean termites need to soil contact to survive as opposed to the Drywood termites that only needs low moisture.
  • Drywood termites are more prevalent in the coastal regions. These termites may be carried in furniture from one region to another. Drywood termites are found many times in the attic wood structure. Drywood termites are more prevalent in the coastal regions. They may be carried in furniture from one region to another. These termites are found many times in the attic wood structure.
    Refer to our section on Termite/Ant Diagram to determine the major difference between ant appearance and termite appearance.

Signs of Termite Infestation May Include

  • Mud like tunnels, usually vertical, among the foundation of the interior or exterior walls.
  • Termite wings.
  • “Swarmers” or flying termites appearing in the house, particularly near light sources.

Subterranean Termite Appearance

  • Worker: wingless,light colored, 1/8 inch long
  • Soldier: the head is elongated with mandibles.
  • Supplementary Reproductives: light colored with no wings or very short
  • Primary Reproductives: most often seen, winged, and darker than the other three castes These are also called “swarmers”.

Drywood Termite Appearance

  • Drywood termites are larger (up to 1/2 inch long) than the Subterranean termite.

Diet

  • Drywood termites diet is wood and other cellulose material, such as paper, cardboard, etc.

Recommended Products and Treatment

The presence of termites in your home or under your home is a serious problem and should be treated by a professional pest control operator. Due to the many different factors involved we feel a professional would serve your needs better in many cases than doing it yourself.

However, we do carry several lines of Professional Termite products.
Feel free to e-mail us or call us for further information.

Termite Control Service Bangkok Thailand

#1 TSC บริษัทกำจัดปลวก กำจัดปลวกด้วยระบบเหยื่อ Xterm จากญี่ปุ่น ตายยกรัง ปลอดภัย ไร้เคมี การันตีผลงานขั้นเทพ สำรวจ “ฟรี” บริการทุกที่ มั่นใจ ปลอดภัย ผ่าน อย.

ข้อแนะนำในการเลือก บริษัทกำจัดปลวก

บริษัทกำจัดปลวก ต้องมีใบอนุญาต ผู้ควบคุมการใช้วัตถุอันตราย เพื่อใช้รับจ้างกำจัดแมลงและสัตว์อื่นในบ้านเรือนหรือทางสาธารณสุข( ทุกบริษัทต้องมีใบนี้ ถ้าไม่มีถือว่า เป็นบริษัทเถื่อนผิดกฎหมาย )
• บริษัทต้องมีใบแจ้งดำเนินการมีใว้ในครอบครองซึ่งวัตถุอันตราย ออกให้โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยากระทรวงสาธารณสุข( ถ้าไม่มีถือว่า เป็นบริษัทเถื่อนผิดกฎหมาย )
• เลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการ ขึ้นทะเบียน อย.เท่านั้น เพราะมีค่าความปลอดภัยสูง ตัวท่านเองก็จะปลอดภัยด้วย
• ไม่ควรเลือกใช้ บริษัทกำจัดปลวก ที่มีค่าบริการราคาถูกจนเกินไป ( ถูกแล้วดี ไม่มีในโลก) สารเคมีที่ใช้อาจเป็นอันตรายต่อตัวท่านเอง ราคากำจัดปลวก ขึ้นอยู่กับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ แต่ละบริษัทใช้ไม่เหมือนกัน ซึ่งจะเปรียบเทียบราคากันไม่ได้ อยู่ที่ลูกค้า จะเลือกแบบถูก หรือแบบคุณภาพดี
• พนักงานมีความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติงาน ผ่านการอบรมก่อนปฎิบัติงานจริง
• บริษัทกำจัดปลวกเกิดขึ้นมากมาย มีทั้งที่ถูกต้องตามกฎหมาย และผิดกฏหมาย บริษัท TSC จำกัด ขอยืนยันว่าเรา ได้รับอนุญาติจากกระทรวงสาธารณะสุข อย่างถูกต้อง มีใบผู้ควบคุมวัตถุอันตรายอย่างถูกต้อง ลูกค้ามั่นใจได้ หากเลือกบริการกำจัดปลวก จากบริษัทของเรา
• กรุณาอย่าเอาบริษัทเราไปเปรียบเทียบกับ บริษัทอื่นๆ ที่ทิ้งงาน ปิดหนีหาย ไม่รับผิดชอบงาน เพราะบริษัทของเรามีมาตรฐานในการบริการของเรา ถ้าต้องการใช้บริการกับเรา ต้องเชื่อใจและใว้ใจบริษัทเรา หากไม่ชอบ ไม่เชื่อใจ ง่ายๆ ไปใช้บริการบริษัทอื่น…..

ผู้โดยสารแตกตื่น ยกขา-ปีนเบาะหนีหนู ในรถไฟใต้ดินอเมริกา

นิวยอร์คเกอร์แตกตื่น  เมื่อหนูหลุดเข้ามาในตู้โดยสารของรถไฟใต้ดิน ชุลมุ่นหนีกันวุ่น

วันนี้(10 เม.ย.) สมาชิกเว็บไซต์ยูทูปชื่อ Jinais Ponnampadikkal Kader· ได้เผยแพร่คลิปชื่อ RAT on the New York subway! เป็นเหตุการณ์ที่ผู้โดยสารในขบวนรถไฟใต้ดินในนิวยอร์คต้องแตกตื่นเพราะมีหนู หลุดเข้ามาในขบวนรถไฟขณะที่กำลังเดินทางมุ่งหน้าสู่บรูคลิน โดยผู้โดยสารทั้งหมดทั้งชายหญิง ต่างยกเท้าขึ้นจากพื้น คนที่กำลังยืนอยู่ก็คอยระแวดระวังเพื่อหนีเจ้าหนูตัวนี้ พร้อมทั้งมีเสียงกรี๊ดเป็นระยะ

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาผู้เห็นเหตุการณ์เผย ว่าหนูตัวนี้โผล่มาหลังจากที่รถไฟใต้ดินเคลื่อนออกจากสถานีฟูลตันซึ่งคาดว่า มันคงวิ่งเข้ามาพร้อมกับผู้โดยสารที่เดินเข้ามาในขบวนในช่วงที่ประตูเปิดและ มันพยายามวิ่งหนีด้วยความตื่นตระหนกที่ได้ยินเสียงวุ่นวายของคนที่แตกตื่น งานนี้ตื่นทั้งหนู ทั้งคน

ทั้งนี้เป็นเรื่องปกติที่สถานีรถไฟ ใต้ดินของอเมริกาจะพบกับหนู เนื่องจากเป็นระบบขนส่งมวลชนที่มีความเก่ารวมถึงปัจจุบันก็เริ่มมีความสกปรก มากขึ้น ถึงแม้จะสกปรกยังไงแต่ก็ไม่บ่อยครั้งนักที่พวกหนูจะหลุดเข้ามาในขบวน งานนี้ทำเอาฝรั่งหลายคนต้องอุทานออกมาว่า What The Fuck !!!!

บริการกำจัดหนู

RAT on the New York subway!

A usually boring Monday morning commute to work at Brooklyn was stirred up by this little guy. He joined us at the Fulton street station on the A train going downtown. Someone getting off the train was screaming “RAT on the train!”. But by the time everyone realized what was happening, the doors closed

TSC

#1 บริษัทที่ให้บริการกำจัดหนู โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการ”กำจัดหนู” โดยตรงประเมินราคา+สำรวจ+ปรึกษา ฟรี
ผู้เชี่ยวชาญด้านกำจัดหนู · เหยื่อหนู ผ่าน อย ทุกชนิด ราคาถูก

อึ้ง! พบหนูยักษ์เต็มบ้านจัดสรรที่นิวยอร์ค

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นายโจส ริเวร่า เจ้าหน้าที่ของการเคหะของบ้านมาซี่เฮาส์ ในเมืองบรูคลีน รัฐนิวยอร์คของสหรัฐ ใช้คราดแทงหนูแกมเบียนขนาดยาว 3ฟุต หางยาว ขนสีขาวตัวอ้วนจนตาย ส่วนตัวอื่นๆวิ่งหนีไปได้ 

ทั้งนี้ ถือเป็นเรื่องธรรมดากับการพบเห็นหนูโดนฆ่าในบ้านมาซี่นี้ เพราะหนูแกมเบียนเป็นสัตว์ที่ชอบอยู่รวมกันเยอะๆ จึงทำให้มันมีจำนวนมาก

ชาวบ้านคนหนึ่งเล่าว่า ทุกๆวันหนูแกมเบียนจะถูกฆ่าตายประมาณ 8ตัว ขณะที่พวกมันวิ่งอยู่บนสนาม อีกคนบอกว่า บางครั้งต้องรีบคว้ามือเด็กแล้ววิ่งหนี เพราะเมื่อเห็นเด็กๆจะกรีดร้อง บางคนก็บอกว่า แมวที่นี่กลัวหนู เพราะหนูเหล่านี้อยู่ด้วยกันเป็นกลุ่ม นอกจากนี้ยังมีคนกล่าวติดตลกว่า คนที่อื่นวิ่งหนีกระสุนปืน แต่คนที่นี่วิ่งหนีหนู พราะมันตัวใหญ่มาก

ด้านนาโอมิ โคลอน หัวหน้าการเคหะกล่าวว่า เธอได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีหนูเพ่นพ่านในบริเวณบ้านมานานกว่า 6 ปีแล้ว แม้ว่าหนูแกมเบียนจะเป็นหนูที่เป็นสัตว์อันตรายที่ถูกอ้าวว่าเป็นพาหะนำโรค ซิฟิลิส และรัฐบาลได้สั่งห้ามไม่ให้นำเข้ามาตั้งแต่ปี 2003 แล้วก็ตาม

อย่างไรก็ตาม หนูแกมเบียนเป็นสัตว์หากินกลางคืน ชอบอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม เมื่อโตเต็มที่จะมีขนาด 3 ฟุต และหนักราว 4 ปอนด์ มีอายุได้ 7-8 ปี

Photo :: Blackandbrownnews.com

1 2
 

Get in Touch

รับใบเสนอราคาฟรีสำหรับการให้ บริการทำความสะอาด และ บริการกำจัดแมลง ที่จะพอดีกับความต้องการและงบประมาณของคุณ

24/7 Support

sirinan9@yahoo.com

www.thaiskyclean.co.th

Monday - Friday

0-2993-2996

095-695-6635